โลกของเราถือเป็นอีกหนึ่งดาวเคราะห์ที่มีความอุดมสมบูรณ์ และมีความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตแทบจะเรียกได้ว่าเป็นอันดับต้นๆ ของจักรวาลเลยก็ว่าได้ อีกทั้งมนุษย์ของเราก็เป็นหนึ่งสิ่งมีชีวิตที่มีความคิดและเรียกเผ่าพันธุ์ตนเองว่าเป็นกลุ่มสิ่งมีชีวิตที่มีอารยะ แต่อย่างไรก็ดียิ่งนานวันเวลาผ่านไป มนุษย์ก็รังแต่จะสร้างปัญหาให้กับโลกที่แสนสวยงามให้เสื่อมสภาพลง ธรรมชาติที่เคยงดงามดังในอดีตก็ได้ถูกแทนที่ด้วย สิ่งปลูกสร้าง เครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ ของมนุษย์จนทำให้เกิดภัยทางธรรมชาติมากมาย บางภัยธรรมชาติก็ดูแปลกตากว่าจากสิ่งที่เคยประสบพบเจอหรือยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น แต่จะมีวิธีไหนบ้างที่จะมารักษาธรรมชาติในกับมาคู่กับโลกของเราให้สวยงามดังเดิม ซึ่งอย่างที่ทราบกันดีว่าต้นไม้เป็นแหล่งผลิตอากาศให้คนทั้งโลก ซึ่งก็มีอยู่ที่แหล่งหนึ่งที่เรียกได้ว่าเป็นลมหายใจของคนทั้งโลก นั่นก็คือ ป่าดงดิบศูนย์รวมต้นไม้ ที่ได้รวบรวมพันธุ์ไม้นานาพันธุ์เอาไว้ ซึ่งบทความของเรานี้ก็จะขอพาทุกท่านได้เรียนรู้ว่า ป่าดงดิบ นั้นคืออะไร และจะมีความสำคัญต่อมนุษย์โลกอย่างไรได้บ้าง
ป่าดงดิบ หรือชื่อทางวิชาการเรามักจะเรียกป่าประเภทนี้กันว่าป่าดิบชื้น คือพื้นที่ที่ต้นไม้จะเขียวขจีตลอดทั้งปี จึงถูกจัดประเภทป่าประเภทนี้ว่าป่าไม้ไม่ผลัดใบ ซึ่งด้วยความอุดมสมบูรณ์ขนาดนี้ของป่าดงดิบจึงทำให้เกิดพันธุ์ไม้นานาชนิด เช่น ต้นยาง ต้นตะเคียน ฯลฯ และ เหล่าสัตว์ป่าน้อยใหญ่อีกมากมายได้มาอาศัยอยู่ แน่นอนว่าความหลากหลายของพันธุ์ไม้ที่มีนี้ก็ทำให้เหล่าผู้ที่ไม่ประสงค์ดี ก็จะเข้ามาหาประโยชน์จากการบุกรุกป่าเพื่อหาประโยชน์ให้พวกพ้องตัวเองและหาประโยชน์จากที่รกร้างภายในป่า จนทำให้ป่าเสื่อมโทรม โดยอย่างที่บอกไปข้างต้นว่าป่าไม้คือหัวใจหลักที่ควบคุมแนวไฟ ควบคุมการไหลหลากของน้ำป่า ซึ่งหากพื้นที่ตรงส่วนนี้หายไปแล้วล่ะก็ ความผิดปกติทางธรรมชาติ หรือภัยพิบัติต่างๆ ก็มีแต่จะเข้ามาหามนุษย์ อีกทั้งปัญหาของภาวะโลกร้อนที่ส่งผลให้เกิดความแปรปรวนต่างๆ ให้เกิดขึ้นบนโลก และเมื่อสูญเสียผืนป่าไปเหล่าสัตว์นานาพันธุ์ก็จะไม่มีที่อยู่จนอาจจะสุญพันธุ์ไปในที่สุด
สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่น่ากลัวมากหากมนุษย์เราไม่รู้จักรักษาธรรมชาติให้คงอยู่กับเรา จงอย่ามองว่าเรื่องของธรรมชาติเป็นเรื่องไกลตัวแต่ให้มองว่าทุกคนทุกส่วนจะต้องมีส่วนร่วมในการรับมือเรื่องเหล่านี้และโลกใบที่สดใสของเราจะกลับคืนมา